พนักงานหญิงคนหนึ่งในโรงงานแปรรูปเนื้อสัตว์ หลังจากเลิกงานที่ประจำอยู่กับเครื่องจักร เธอได้
เข้าไปในห้องแช่แข็งเนื้อสัตว์ของโรงงาน เพื่อตรวจสอบงานบางอย่าง ปรากฏว่าประตูห้องนั้นมีระบบล็อคอัตโนมัติ กล่าวคือพอหลังเลิกงานแล้ว ประตูห้องจะปิดตาย ทางเดียวเท่านั้นคือ ต้องเปิดประตูจากด้านนอกห้อง
เธอพยายามเคาะประตู พยายามตะโกนเรียกคนนอกห้องให้ช่วยเหลืออย่างสุดเสียง แต่เนื่องจากเป็นห้องเก็บเสียง เสียงจึงไม่ดังออกมาสู่ภายนอก เธอใช้พละกำลังทั้งหมดเท่าที่มีพยายามจะเปิดประตูให้ได้ แต่ก็ไร้ผล
เวลาผ่านไป 2 ชั่วโมง พนักงานกลับบ้านกันหมดแล้ว เธอจะทำอย่างไรดี โทรศัพท์มือถือก็ไม่ได้ เอาติดตัวเข้าไป รู้สึกหนาวเย็นสุดๆ หากต้องอยู่ในห้องนี้ทั้งคืน เธอคงถูกแช่แข็งแน่ๆ เธอได้แต่นั่งร้องไห้อย่างสิ้นหวัง
เวลาผ่านไปราว 4 ชั่วโมง ประตูห้องนั้นถูกเปิดออกด้วยฝีมือของยามรักษาความปลอดภัยของโรงงาน พนักงานหญิงคนนั้นสุดแสนจะดีใจที่ชีวิตรอดปลอดภัย เหมือนตายแล้วเกิดใหม่
“ คุณรู้ได้อย่างไร ว่าฉันอยู่ในห้องนี้ ”
ยามรักษาความปลอดภัยตอบว่า
“ ผมทำงานที่นี่มา 35 ปีแล้ว คุณเป็นเพียงหนึ่งใน 2-3 คน จากจำนวนพนักงานที่เข้าออกทุกเช้าเย็นกว่า 800 คน ที่ทักทายสวัสดี (Good Morning) ผมในตอนเช้า และเอ่ยปากร่ำลาผม ( Bye, see you) ในตอนเลิกงานก่อนจะออกจากประตูโรงงาน ในขณะที่พนักงานคนอื่นๆ เขาทำเสมือนหนึ่งว่าไม่มีผมอยู่ที่ประตูทางเข้า ”
พนักงานหญิงยิ้มทั้งน้ำตา เขาพูดต่อว่า
“ วันนี้คุณทักทายผมเมื่อเช้าตามปกติ เย็นวันนี้ ผมคาดว่าคุณจะเอ่ยปากร่ำลาผมเหมือนทุกวัน เพราะมันทำให้ผมระลึกรู้ว่าผมยังมีตัวตนของผมอยู่ แต่ผมไม่เห็นคุณเลย ผมเดินหาคุณทั่วบริเวณโรงงาน ผมจึงเข้ามาพบคุณที่ห้องนี้ ”
พนักงานหญิงจับมือและโอบกอดยามคนนั้น เธอละล่ำละลักเอ่ยคำขอบคุณอย่างหนักแน่น
นี่เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในโรงงานแห่งหนึ่งในสหรัฐอเมริกา
บทเรียนสำคัญยิ่งคืออะไร
แต่ละวันที่ผ่านไป เราพบผู้คนบนเส้นทางหลายคน เราพบคนขายตั๋วที่สถานีรถไฟฟ้า พบกระเป๋ารถเมล์และคนขับรถโดยสาร พบคนขับที่นำพาเราไปสู่ที่หมายอย่างปลอดภัย พบยามรักษาความปลอดภัยที่
หน้าบริษัท พบแม่ค้าขายข้าวแกง พบตำรวจจราจรบนถนน พบคนขายกาแฟในร้าน พบคนขายก๋วยเตี๋ยว แม้กระทั่งพบพ่อแม่พี่น้อง สามีภรรยา บุตรหลาน ที่บ้าน ทุกคนล้วนแล้วแต่ต้องการให้คนอื่นยอมรับความมีตัวตนของเขาในที่นั้น ณ เวลานั้น เราเอ่ยปากทักทาย เรายิ้มอย่างมีไมตรีจิต เราน้อมใจพูดคุยอย่างสุภาพกับผู้คนที่พบเห็นในระหว่างวันหรือไม่
หรือว่าเราไยดีแต่สมาร์ทโฟนที่อยู่ในมือเราเท่านั้น
ติดตามงานเขียนได้ที่ Facebook Page : PRASARN MARUKPITAK PAGE