คลิปวิดีโอสั้น ที่เพื่อนส่งมาให้เมื่อสักครู่ เป็นภาพชายฝรั่งนอนเอกเขนกอยู่บนกองหญ้าแห้งข้างถนนสายเล็กๆในชนบท เขามีลาน้อยตัวหนึ่ง ที่ผูกเสาไว้ยืนอยู่ข้างๆเขา
ครู่หนึ่งต่อมา มีชายอีกคนขี่มอเตอร์ไซด์มาจอดตรงนั้น หลังจากทักทายกันเขาถามว่า
“ ตอนนี้เวลากี่โมงแล้ว ”
ชายที่นอนอยู่ เอามือข้างขวาเอื้อมไปยกอัณฑะของลาน้อยขึ้น มองไปที่อัณฑะลา แล้วหันกลับมาบอกคนถามว่า 10.10 น.
ชายคนถาม ถามย้ำขอความแน่ใจ ชายคนนั้นเอื้อมมือไปทำแบบเดิมแล้วตอบ ย้ำเวลาเดิม
ชายคนถาม ยกนาฬิกาข้อมือด้านซ้ายขึ้นมา ตั้งเวลาใหม่แล้วขับรถต่อไป
อีกพักใหญ่ ชายมอเตอร์ไซด์คนเดิมขับรถกลับมา เขาแวะตรงจุดเดิม แล้วถามคำถามเดียวกัน
“ ตอนนี้เวลาเท่าไรแล้ว ”
ชายเจ้าของลา ขยับยกอัณฑะลาน้อยของตนขึ้นมองไปตรงนั้นแล้วหันกลับมาตอบว่า
“ 11.25 น.”
คนถาม ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูอย่างประหลาดใจแล้วว่า
“ ตรงเผงเลย ว่าแต่คุณรู้ได้อย่างไร จากการจับที่ลูกอัณฑะของลา”
ชายคนนั้น เอื้อมมือไปยกอัณฑะลาอีกครั้ง แล้วพูดว่า
“คุณไม่เห็นหรือว่า อัณฑะพวงนี้ของลามันบังเสานาฬิกาของหมู่บ้านเอาไว้ ”
คลิพวิดีโอเรื่องนี้ ให้แง่คิดอย่างน้อย 2 ประการ
เราเห็นอะไร แล้วมักจะคิดไปเองว่าอย่างนั้นอย่างนี้ เป็นมโนภาพที่อาจจริงหรือไม่จริงก็ได้
เพื่อให้ได้ความจริง จะมีอะไรดีกว่า การถามไถ่อย่างตรงไปตรงมา ดีกว่าทิ้งค้างไว้แล้วจินตนาการไปเอง
ติดตามงานเขียนได้ที่ FACEBOOK : PRASARN MARUKPITAK