เลนโซ่ เป็นชาวไร่ข้าวโพดที่ยากจนอยู่ที่เม็กซิโก ปีนั้นข้าวโพดของเขาถูกพายุถล่ม ข้าวโพดที่กำลังออกฝัก พินาศป่นปี้ ทำให้ครอบครัวเดือดร้อนเพราะเก็บเกี่ยวไม่ได้เลย จะทำอย่างไรดี
เนื่องจากเขานับถือพระผู้เป็นเจ้ามาก จึงตัดสินใจเขียนจดหมายถึงพระผู้เป็นเจ้ามีใจความว่า
“พระผู้เป็นเจ้าที่เคารพ ข้าวโพดไร่ของข้าพเจ้าเก็บเกี่ยวไม่ได้เลยเพราะพายุถล่มรุนแรง ข้าพเจ้าไม่มีเงินใช้จ่าย ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร จึงขอความเมตตาจากพระผู้เป็นเจ้า ได้โปรดส่งเงินมาให้ข้าพเจ้าสัก 100 เปโซ เพื่อเป็นทุนในการเพาะปลูกใหม่ และจะได้มีชีวิตอยู่ถึงฤดูเก็บเกี่ยวอีกด้วย ขอขอบพระคุณ ลงชื่อ เลนโซ่ ”
เลนโซ่ พับจดหมายใส่ซอง ปิดผนึก ติดแสตมป์ จ่าหน้าซองว่า “ถึงพระผู้เป็นเจ้า” โดยไม่ได้เขียนที่อยู่ของผู้รับ แล้วทิ้งตู้ไปรษณีย์
จดหมายถูกรวบรวมไปยังที่ทำการไปรษณีย์ท้องถิ่น นายไปรษณีย์พบว่าซองนี้ไม่มีที่อยู่แล้วจะส่งได้อย่างไร จึงตัดสินใจเปิดซองอ่านจดหมายน้อยนั้น
ด้วยแรงแห่งศรัทธาในพระผู้เป็นเจ้าเหมือนกัน นายไปรษณีย์จึงบอกบุญกับพนักงานในที่ทำการทุกคนว่าจะเอาเงินไปทำบุญ ใครจะบริจาคก็ลงขันกันมา รวบรวมทั้งหมดได้เงินบริจาค 70 เปโซ นายไปรษณีย์จึงเอาเงินนั้นใส่ซองปิดผนึกจ่าหน้า “เลนโซ่” แล้วใส่ลิ้นชักไว้
อีก 5 วันต่อมา เลนโซ่เดินทางไปที่ไปรษณีย์ท้องถิ่น หมายจะสอบถามว่า มีไปรษณีย์มาถึงหรือไม่ นายไปรษณีย์เห็นเลนโซ่ก็ดีใจ รีบหยิบซองนั้นยื่นให้เลนโซ่ โดยบอกว่า“มีจดหมายถึงคุณ”
เลนโซ่เป็นปลื้มเปิดซองนับเงินเห็นว่ามีแค่ 70 เปโซ จึงเขียนจดหมายอีกฉบับทันทีว่า
“พระผู้เป็นเจ้า เงินที่ท่านส่งมาให้ข้าพเจ้านั้นถึงมือข้าพเจ้าเพียง 70 เปโซเท่านั้น โปรดส่งเงินจำนวนที่ขาดมาให้ข้าพเจ้าด้วย และในการส่งครั้งต่อไป อย่าส่งผ่านไปรษณีย์ เป็นอันขาดเพราะว่าไอ้พวกนี้ขี้ขโมยทั้งนั้น ลงชื่อ เลนโซ่”
นี่เป็นเรื่องสั้นของ นายฟูเอนเทส ที่เขียนไว้นานแล้ว ขอเอามาเล่าต่อจากความทรงจำที่เคยอ่านเพื่อชวนกันคิดว่า สิ่งที่เรียกว่า “ทำคุณได้โทษ” นั้น เกิดขึ้นได้ในชีวิตจริง
ซึ่งหลายคนคงประสบกันมาแล้ว ตามหลักนายเลนโซ่ควรจะขอบคุณนายไปรษณีย์ แต่กลับถูกหาว่าขี้ขโมยเสียนี่
อุทาหรณ์นี้ เป็นปรากฏการณ์ ให้คิดว่า ทำดีแล้วใช่ว่าจะเกิดผลดีแบบฉับพลัน ผลดีจะตอบสนองเวลาไหน ใครก็บอกไม่ได้ แต่คนที่ทำดีควรมีปิติในตนแล้วที่ได้ทำโดยไม่จำเป็นต้องไปเดือดร้อนกับคำติชมใดๆ เลย
ติดตามงานเขียนได้ที่ FACEBOOK : PRASARN MARUKPITAK