คนไม่ออกกำลังกาย จะหาเหตุผลให้ตนเอง และบอกกับผู้อื่นทำนองนี้
เขาจะ อ้างดินฟ้าอากาศ ว่า “ตอนเย็นไม่ค่อยว่าง จะออกไปวิ่งตอนบ่าย ก็ร้อนตับจะแตก”
เขาจะ อ้างสถานที่ ว่า “ผมชอบว่ายน้ำ แต่สระว่ายน้ำ อยู่ไกลบ้านมาก ไปไม่ไหว”
เขาจะ อ้างอุปกรณ์ไม่พร้อม ว่า “ผมอยากจ๊อกกิ้ง แต่ยังหารองเท้าคู่เหมาะๆ ไม่ได้ซักที”
เขาจะ อ้างไม่มีเพื่อน ว่า “พักนี้ คู่เล่นแบดมินตันของผมไม่ค่อยว่าง ผมเลยไม่มีคู่เล่น”
เขาจะ อ้างปัญหาสุขภาพ ว่า “ผมเป็นคนเหนื่อยง่าย วิ่งๆไปเดี๋ยวช็อคกลางถนน”
เขาจะ อ้างเรื่องเวลา ว่า “งานผมยุ่งมาก ไม่มีเวลาออกกำลังกายเลย”
เขาจะ อ้างอุปกรณ์เสีย ว่า “จักรยานของผมเสีย ยังไม่ได้เอาไปให้ร้านซ่อม”
เขาจะ อ้างวันนี้ไม่พร้อม ว่า “พรุ่งนี้ค่อยไปวิ่ง วันนี้ขอพักก่อน”
ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นข้ออ้างทั้งนั้น คนที่อ้างแบบนี้ เพื่อให้ดูดีว่า ใจจริงเขาอยากออกกำลังกาย แต่เพราะปัญหานั่นโน่นนี่ มาเป็นอุปสรรคต่อตัวเขา
ความจริง ไม่มีรองเท้าจ๊อกกิ้ง ใช้รองเท้าแตะก็ได้ อยู่ห่างสระว่ายน้ำ ก็เปลี่ยนมาเป็นจ๊อกกิ้งก็ได้ ตอนเย็นไม่ว่าง ลุกขึ้นมาออกกำลังตอนเช้าก็ได้ ไม่มีเพื่อนเล่นเป็นคู่ ก็หันไปเล่นฟิตเนสก็ได้ จักรยานเสีย ก็หันไปแกว่งแขนก็ได้ ถ้าเหนื่อยง่ายนั่นแหละยิ่งต้องออกกำลังกาย ไปเดินทอดน่องก็ยังได้
ไม่มีปัญหาใดเลยที่แก้ไขไม่ได้ แม้แต่เรื่องเวลา
คนมีข้ออ้างทั้งหลาย เพราะเขาไม่ให้ความสำคัญกับการออกกำลังกาย หากเขาตระหนักว่าการออกกำลังกาย มีความสำคัญต่อชีวิตปัจจุบันและอนาคตของเขา เขาก็จะจัดเวลาได้
จากประสบการณ์ตรงของผู้เขียน
ไม่ว่าเรื่องอะไรในโลกนี้ หากเราให้ความสำคัญ เราก็จะมีเวลาให้เสมอ และหากเรามุ่งมั่นจริง ก็จะไม่เกิดข้ออ้างใดๆเลย
ติดตามงานเขียนได้ที่ FACEBOOK : PRASARN MARUKPITAK