
มีเรื่องเล่าจาก ต่วยตูน เรื่องหนึ่ง
เหตุเกิดที่ร้านกาแฟโบราณแห่งหนึ่ง ซึ่งมียายเป็นเจ้าของร้าน
ธรรมดากาแฟโบราณ หลังจากชงกาแฟถุงลงถ้วยแล้ว คนชงจะเทนมข้นหวานลงไปนอนก้นถ้วยที่ลูกค้าสามารถมองเห็นระดับมากน้อยของนมข้นได้
หลังจากลุงสั่งกาแฟแล้ว หลานสาวเจ้าของร้าน ที่หยุดเรียนช่วงปิดเทอมมาช่วยยายขายกาแฟ ยกถ้วยกาแฟมาเสิร์ฟลุงตามสั่ง
“นมน้อยจัง” ลุงเอ่ยคำเชิงบ่น
หลานสาวแสดงอาการเขินอายแล้วพูด
“เพิ่งขึ้นค่ะ”
ยายได้ยินดังนั้น จึงเอ็ดตะโรว่า
“พึ่งขึ้นที่ไหนกัน ขึ้นมาตั้งสองเดือนแล้ว”
นี่คือปรากฏการณ์ การสื่อความแบบคนละนมเดียวกัน ที่เราอาจมีประสบการณ์ตรงกันในเรื่องอื่นๆ กันมาแล้ว
กาแฟแก้วเดียวกัน นมข้นก็อยู่ในแก้วนั้นเอง คำพูดก็วรรคเดียวกันที่ว่า “นมน้อยจัง” แต่แล้ว ทั้งสามคนคิดกันไปเป็นคนละเรื่อง ลุงพูดถึงนมในแก้ว หลานสาวพูดถึงหน้าอกหน้าใจของตัวเอง ส่วนยายพูดถึงราคานมที่ปรับราคาขึ้น
อะไรเป็นสาเหตุให้แต่ละคน คิดกันไปคนละทาง ทั้งๆที่ไม่มีใคร มีเจตนาจะบิดเบือนข้อมูลข่าวสารที่เกิดขึ้นเลย
ใช่หรือไม่ว่า สถานภาพที่ต่างกันเป็นเหตุ ลุงกำลังพิจารณากาแฟ หลานสาวกำลังกังวลถึงการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายของตนเอง ขณะที่ยายเป็นห่วงเรื่องกำไรขาดทุน
แทนที่จะเอาตนเองเป็นตัวตั้ง นักสื่อสารที่ดี จึงต้องมีความสันทัดที่จะไปเข้าใจในสิ่งที่คู่สนทนาพูดอย่างตรงตามความเป็นจริง
Like this:
Like Loading...
Related